เดี๋ยวก่อนนะ ได้ข่าวว่าบล็อกนี้จะเอาไว้เขียนเรื่อง IT กับ Anime ไม่ใช่เหรอ แล้วไหงมีรีวิวร้านอาหารโผล่มาได้ล่ะเนี่ย – -”
เอาน่า ช่างเถอะ อย่าไปใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ดีกว่า LOL

วันนี้นั่งเล่นคอมอยู่ดีๆ @bhatswitch ก็เดินมาเคาะประตูห้อง ชวนออกไปกินข้าวเที่ยงที่ทองหล่อซอยสอง ชื่อร้าน Chijuya ซึ่งเป็นร้านอาหารเจสไตล์ญี่ปุ่น ปกติก็ไม่ได้เป็นคนกินมังฯ แต่เห็นว่ามันน่าสนใจดี ก็เลยยอมตามไปด้วย พร้อมกับมี @PrinceOfThief ตามไปอีกคน

นั่งแท็กซี่ขึ้นสะพานพระรามเก้า ลงทางด่วน … ป๊าด … ในที่สุดก็ถึงหน้าทองหล่อซอย 2

เดินเข้าตึก (จำชื่อไม่ได้) ขึ้นไปชั้นสอง แล้วก็ถึงหน้าร้าน Shijuya ที่ตั้งใจมากินในวันนี้

จุดประสงค์ของการมาที่นี่ก็เพียงเพราะว่า @bhatswitch อยากจะพาสายรหัสมาเลี้ยง แล้วมีน้องที่กินมังฯ ประกอบกับร้านอาหารมังฯ ที่น่าสนใจก็หายาก (ตามคำกล่าวอ้างของ @bhatswitch)

หลังจากเดินเข้าร้านไปป๊าบ ก็เห็นพนักงาน 2 คนกำลังเสิร์ฟอาหาร ไม่มีใครหันมาสนใจกลุ่มผมเลย ก็เลยพากันเดินไปนั่งที่โต๊ะว่างเองซะเลย สักพักก็มีพนักงานเอาเมนูมาให้ พวกผมก็เปิดดู เท่าที่เห็นตอนแรกก็รู้สึกว่าราคาไม่แพงเท่าไหร่แฮะ ประมาณ 100-200 ต่อจาน (ไม่นับพวกของพิศดารอย่างหูฉลามหรือซุปเทพ)

เวลาผ่านไป… ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ เลยเรียกพนักงานมารับออเดอร์ สั่งไปสามอย่างคือ รวมมิตรปลาดิบ ชิจูย่ามากิ(ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะ) แล้วก็กุ้งเทมปุระ (อย่าลืมนะว่าอาหารมังสวิรัติ)
แล้วก็นั่งรอๆๆ รอแล้วรออีก รอจนท้องร้องโครกคราก รอจนโต๊ะข้างๆ กินเสร็จ รอจนโต๊ะข้างหลังสั่งออเดอร์ ก็ยังไม่เห็นวี่แววอาหารสักจาน

ทนไม่ไหวครับ ก็เลยเรียกพนักงานมาถาม เค้าก็ไปเร่งให้
สักพักหนึ่งก็กลับมาถามว่า ชิจูย่ามากิที่สั่งไปเปลี่ยนได้ไหม มันหมด – -”
กรรมครับ นั่งรอตั้งนาน เพิ่งมาบอกว่าหมด
อะ ไม่เป็นไร เปลี่ยนได้ เราไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ว่าแล้วก็เปลี่ยนเป็นปลาไหลเจโกโบ้

อีกพักใหญ่ๆ จานแรกก็มา รวมมิตรปลาดิบ แล้วพวกเราก็เริ่มกิน พร้อมๆ กับที่โต๊ะหลังกินไปได้พักหนึ่งแล้ว (อย่าลืมนะว่าโต๊ะหลังมานั่งทีหลังพวกเรา)
ด้วยความหิว(สุดๆ) ก็เลยพากันจ้วงๆๆ จนหมด ลืมถ่ายรูปมาเลย – -”
มองเผินๆ ก็เหมือนมีเนื้อปลาขาวๆ ปลาแซลมอน แล้วก็ปูอัด (เหมือนดีแฮะ) กินเข้าไปไม่รู้สึกเลยว่ามันคืออะไร (พวกโปรตีนเกษตรเปล่าหว่า ผมก็ไม่ค่อยสันทัดเรื่องอาหารพวกนี้ รู้แต่ว่ากินได้ อร่อยดี :D)

สักพักนึกได้ว่า ยังไม่ได้สั่งน้ำนี่หว่า (แล้วเมื่อกี้พนักงานก็ไม่ทักเลยนะ ปกติเค้าต้องถามไม่ใช่เหรอว่า “เครื่องดื่มจะรับอะไรคะ”)

หลังจากนั้น จานที่สองก็มา มันคือปลาไหลเจโกโบ้ ผ่าง~

ก็น่ากินดีนะ แต่ความรู้สึกตอนเห็น มันเหมือนหมูทอดมากกว่าอะ แต่ช่างเหอะ หิวมาก ไม่สนอะไรแล้ว กินอย่างเดียว

พอกินหมด จานที่สามก็มา นั่นคือ… กุ้งเทมปุระ

ถ่ายรูปเสร็จก็รีบๆ กินด้วยความหิว เหมือนว่าของที่อยู่ข้างในแป้งนั่นมันจะเป็นอย่างเดียวกับที่ทำปูอัดในจานปลาดิบเลยแฮะ

แล้วทั้งสามจานก็ผ่านไปแบบ… ไม่รู้สึกอะไรเลย
จริงๆ นะ ไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนนั่งกินขนมกินเล่นยังไงยังงั้น นั่งรอนานมากกกก… (ประมาณครึ่งชั่วโมงได้มั้ง อาจจะมากกว่าด้วย) แต่ได้กินไม่เท่าไหร่เลย
เมื่อนั่งคำนวณราคา… ตอนนี้สามจาน เฉลี่ยคนละ 160 แล้วครับ นี่ยังไม่รู้นึกอะไรเลย ไม่รู้ว่าถ้าสั่งให้กินอิ่มจะโดนคนละกี่บาท
คิดได้ดังนั้นก็เลยตัดสินใจเรียกเก็บเงิน รวมแล้ว 485 บาท จ่ายเงินเสร็จก็ออกจากร้าน พร้อมกับบ่นในใจว่า เหมือนไม่ได้กินอะไรเลยแฮะ – -”

ปกติผมก็ไม่ได้งกอะไรมากมายนะ (ได้ข่าวว่าค่ารถเมล์ 19 บาทยังงกเลยไม่ใช่เหรอ – -“) มื้อละสองสามร้อยผมก็กินได้ (นานๆ ครั้ง) แต่ขอให้มันอิ่มจริงๆ ได้มั้ยอะ นี่เกือบสองร้อยแล้ว ยังไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ละจานมันน้อยไปอะ กินคนเดียวยังจะไม่อิ่มเลย…

สุดท้ายกลับหอมากินไวไวอิ่มกว่า…

สรุปว่าอาหารอร่อยดี ไม่รู้สึกว่าเป็นอาหารมังสวิรัติเลย เหมาะสำหรับคนเริ่มกินมังฯ หรืออยากเว้นการกินเนื้อสัตว์บ้างเป็นครั้งคราว บรรยากาศในร้านก็ใช้ได้ โต๊ะสะอาดน่านั่งดี ส่วนบริการนี่… ไม่ดีเท่าไหร่นะ (ได้ยินป้าโต๊ะข้างๆ ที่น่าจะเป็นลูกค้าประจำ ถามพนักงานว่า พนักงานเหลือน้อยเหรอ ก็ได้คำตอบว่าใช่ นี่สินะที่ทำให้พวกผมต้องนั่งรอ ร้อ รอ) ส่วนราคาอาหารก็… ถือว่าค่อนข้างแพง เหมาะกับคนที่กินข้าวไม่เยอะมากกว่า

สรุปว่าให้ไปกินอีกคงไม่ไปล่ะนะ กินสเต๊กจานละ 99-149 อิ่มกว่ามากมาย…

ปล. แถมภาพต้นทานาบาตะที่สุขุมวิท 33/1 (แอบแวะไปซื้อเมล่อนปังมา :D)
Photo-0096